News

เมื่อวันที่ 28 มี.ค.62 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) เปิดเผยว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามในระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยรายได้และการจ่ายเงินของสถานศึกษา สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2562 และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2562 ซึ่งระเบียบดังกล่าวมีเจตนารมณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการเบิกจ่าย โดยมีหลักการเพื่อกำหนดประเภทของเงินรายได้ของสถานศึกษา สังกัดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กำหนดแนวทางการตั้งงบประมาณของ อปท. เพื่อสนับสนุนสถานศึกษาในสังกัด กำหนดรายจ่ายของสถานศึกษา ไปจนถึงการบริหารงบประมาณของสถานศึกษา ให้มีความครอบคลุม คล่องตัว และลดภาระครูในสังกัด อปท.ทั่วประเทศ

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า ระเบียบนี้ได้มีการกำหนดประเภทของเงินรายได้ให้ครอบคลุม เพื่อให้สถานศึกษาของ อปท. สามารถรับเงินอุดหนุนจากองค์กรต่างๆได้ นอกเหนือไปจากเงินรายได้ของสถานศึกษา ที่จะมาจากเงินที่ได้จากการตั้งงบประมาณของ อปท. เช่น เงินสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งระเบียบเดิมไม่ได้รองรับในเรื่องนี้ไว้ สำหรับส่วนที่ก้าวหน้าและเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของโรงเรียนสังกัด อปท.มากที่สุด คือ การกำหนดเรื่องรายจ่ายของสถานศึกษาให้ครอบคลุมในทุกมิติ เกี่ยวกับการจัดการศึกษา เช่น ค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรการศึกษา ค่าใช้จ่ายในการนำผู้เรียนไปทัศนศึกษา ค่าใช้จ่ายในการนำผู้เรียนไปร่วมกิจกรรมการแข่งขันกีฬา หรือการแข่งขันทักษะทางการศึกษาทั้งภายในและต่างประเทศ และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือการส่งบุคลากรของสถานศึกษาไปเข้ารับการฝึกอบรม รวมไปถึงค่าจ้างเหมาบริการงานการสอน งานทำความสะอาด งานรักษาความปลอดภัย พาหนะรับส่งนักเรียนตามความจำเป็นที่ต้องมี ค่าสอนพิเศษหรือค่าสอนเกินภาระงานสอนในสถานศึกษา

"ระเบียบนี้ไม่เพียงแต่กำหนดรายจ่ายของสถานศึกษาให้ครอบคลุมทุกมิติเท่านั้น แต่ในสถานศึกษาที่มีการจัดการศึกษาลักษณะพิเศษ เช่น โรงเรียนกีฬา ซึ่งมีลักษณะเป็นโรงเรียนกินนอน ก็จะให้มีอำนาจในการเบิกจ่ายเงินเพิ่มเติมเพื่อดูแลนักเรียนในสังกัดด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้ปกครองเกิดความไว้วางใจที่จะส่งลูกหลานเข้ามาศึกษาเล่าเรียน เช่น ค่าเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์สำหรับผู้เรียนในการฝึกกีฬา ฝึกงาน ฝึกปฏิบัติการหรือการแข่งขัน ค่าวัสดุหรือครุภัณฑ์ที่จำเป็นสำหรับการจัดที่พักอาศัย ให้แก่ผู้เรียนในสถานศึกษา ค่าอุบัติเหตุผู้เรียน ทั้งในระหว่างฝึกกีฬาและในระหว่างการแข่งขัน ไปจนถึงค่าใช้จ่ายเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักเรียนในโรงเรียนกีฬา เช่น ค่าจ้างเหมาบริการซักรีด ค่าอาหารประจำวัน ค่าอาหารเสริมเฉพาะในกรณีที่มีความจำเป็น" นายสุทธิพงษ์ กล่าว

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อถึงด้านการบริหารรายได้ รายจ่าย และการพัสดุของสถานศึกษา ว่า มีการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบเพื่อทำให้การเบิกจ่ายคล่องตัวขึ้น และสามารถแก้ไขปัญหาเล็กๆน้อยๆ ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนได้ทันท่วงที เช่น กรณีท่อประปาแตก เสาธงเป็นสนิม ชักโครกพัง ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่ได้ระบุลงในแผนปฏิบัติการประจำปี โดยระเบียบใหม่นี้ ก็กำหนดให้สามารถใช้จ่ายจากเงินรายได้สะสมได้แล้วด้วย

Related Posts: